รากฟันเทียมเจ็บไหม? เมื่อรู้ว่าต้องรักษารากฟันเทียม หลายคนอาจกังวลเกี่ยวกับความเจ็บปวดและขั้นตอนการผ่าตัด แต่ในปัจจุบัน การทำรากฟันเทียมได้รับการพัฒนาให้คนไข้รู้สึกเจ็บน้อยลงด้วยเทคโนโลยีทันสมัย หากคุณเข้าใจขั้นตอนและปฏิบัติตามคำแนะนำของทันตแพทย์ การรักษาก็จะเป็นไปอย่างราบรื่นและสะดวกยิ่งขึ้น โดยการเตรียมตัวก่อนทำการรักษาและการดูแลหลังการรักษาอย่างเหมาะสม เป็นปัจจัยสำคัญที่จะช่วยให้ผลลัพธ์ของการทำรากฟันเทียมออกมาดี และลดความกังวลของคุณได้
หากคุณกำลังมองหาวิธีทำรากฟันเทียมที่มีประสิทธิภาพและไม่ทำให้เกิดความเจ็บปวด บทความนี้จะพาคุณไปเรียนรู้เกี่ยวกับกระบวนการทำรากฟันเทียม ตั้งแต่การเตรียมตัวไปจนถึงการดูแลหลังการรักษา เพื่อให้คุณเข้าใจวิธีการที่จะทำให้กระบวนการนี้เป็นไปได้อย่างราบรื่นและสะดวกตลอดการรักษา
ทำรากฟันเทียมเจ็บไหม?
คำถามที่พบบ่อยที่สุดจากคนไข้คือ “ทำรากฟันเทียมเจ็บไหม?” ซึ่งโดยทั่วไปทันตแพทย์จะใช้ยาชาเฉพาะขณะฝังรากเทียม เพื่อลดอาการเจ็บปวดทำให้รู้สึกผ่อนคลายขณะรักษา ส่วนอาการเจ็บหลัง การรักษารากฟันเทียม จะมีเพียงเล็กน้อยและอยู่ในระดับที่ควบคุมได้
อาการที่อาจเกิดขึ้นหลังการรักษารากฟันเทียม
- เจ็บเล็กน้อยในช่วง 2–3 วันแรก: หลังจากการฝังรากฟันเทียม คนไข้อาจรู้สึกเจ็บหรือรู้สึกไม่สบายในช่วง 2–3 วันแรก โดยอาการนี้มักจะเกิดขึ้นจากการฝังรากเทียมในช่องปาก ซึ่งสามารถบรรเทาได้ด้วยการใช้ยาแก้ปวดที่ทันตแพทย์จ่ายให้
- อาการบวมบริเวณเหงือก: อาการบวมอาจเกิดขึ้นบริเวณเหงือกที่ทำการฝังรากฟันเทียม แต่มักจะหายไปในระยะเวลาไม่เกิน 1 สัปดาห์
- การใช้ยาตามคำแนะนำ: ทันตแพทย์มักจะให้ยาแก้ปวดและยาปฏิชีวนะเพื่อช่วยให้คนไข้ฟื้นตัวเร็วขึ้นและลดโอกาสการติดเชื้อ
สรุปแล้วการทำรากฟันเทียมเจ็บไหม? คำตอบคือในระหว่างการรักษาคุณจะไม่มีอาการเจ็บใด ๆ จากการใช้ยาชา แต่หลังการรักษาอาจมีอาการเจ็บเพียงเล็กน้อย ซึ่งแก้ไขได้ด้วยการดูแลฟันที่ฝังรากเทียมอย่างถูกวิธีและปฏิบัติตามคำแนะนำของทันตแพทย์อย่างเคร่งครัด
รักษารากฟันเทียมอย่างไรให้หายเร็วและปลอดภัย?
- ติดตามผลการรักษา: พบแพทย์ตามนัดหมาย เพื่อให้ทันตแพทย์สามารถตรวจสอบผลการฝังรากฟันเทียมและแก้ไขปัญหาที่อาจเกิดขึ้นได้ทันท่วงที
- ปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์: การใช้ยาตามคำแนะนำและดูแลช่องปากอย่างสม่ำเสมอจะช่วยให้การรักษารากฟันเทียมเป็นไปอย่างราบรื่นมากขึ้น
- รับประทานอาหารอ่อน ๆ: หลังการรักษา ควรหลีกเลี่ยงอาหารแข็งหรือร้อนจนกว่าจะฟื้นตัวเต็มที่ เพื่อลดอาการปวด บวม บริเวณที่ใส่รากฟันเทียม
ด้วยการดูแลและรักษาที่ถูกต้อง รากฟันเทียมจะช่วยให้คุณมีฟันที่แข็งแรงและใช้งานได้อย่างยาวนาน โดยไม่ต้องกังวลว่าจะมีอาการเจ็บปวดที่เกิดขึ้นหลังการรักษารากฟันเทียม
ขั้นตอนการรักษารากฟันเทียมมีกี่ระยะ?
เพื่อคลายความกังวลว่าทำรากฟันเทียมเจ็บไหม เราควรมาทำความเข้าใจถึงขั้นตอนของการรักษารากฟันและการฝังรากฟันเทียม ว่าดำเนินอย่างไรบ้าง ที่ Anytooth เราจะแบ่งออกเป็น 4 ระยะ ตามแผนการรักษาเฉพาะบุคคล และขึ้นอยู่กับสภาพกระดูกขากรรไกรของคนไข้
1. ตรวจและวางแผนการรักษา
- ทันตแพทย์จะเอกซเรย์ (X-ray) ร่วมกับการ สแกน 3 มิติ เพื่อวิเคราะห์ปริมาณและคุณภาพของกระดูกขากรรไกร
- ข้อมูลที่ได้จะถูกใช้ในการวางแผนตำแหน่งการฝังรากเทียมอย่างแม่นยำ ช่วยเพิ่มโอกาสในการยึดติดของรากฟันเทียมและลดความเสี่ยงในอนาคต
- ในบางกรณี หากฟันยังสามารถรักษาได้อาจแนะนำให้รักษารากฟันแทนการฝังรากฟันเทียม
2. การฝังรากฟันเทียม
- ทันตแพทย์จะฝังรากเทียมไทเทเนียม ซึ่งเป็นวัสดุที่ปลอดภัยและเข้ากันได้ดีกับกระดูกลงไปในขากรรไกร
- ใช้ยาชาเฉพาะที่ทำให้คนไข้ไม่รู้สึกเจ็บ คุณไม่ต้องกังวลว่าระหว่างการทำรากฟันเทียมจะเจ็บไหม เพราะไม่เจ็บแน่นอน
- จากนั้นต้องรอให้กระดูกยึดติดกับรากเทียม ซึ่งใช้เวลาประมาณ 3–6 เดือน ซึ่งระหว่างนั้นจะมีการนัดติดตามผลเป็นระยะ
3. การติดตั้งครอบฟัน
- เมื่อรากฟันเทียมยึดติดแน่นกับกระดูกแล้ว ทันตแพทย์จะทำการติดครอบฟันเซรามิก (Dental Crown) บนรากเทียม
- ครอบฟันจะถูกออกแบบให้เหมือนฟันธรรมชาติ ทั้งในด้านรูปร่าง สี การใช้งาน เพื่อให้คนไข้สามารถเคี้ยวอาหาร พูด และยิ้มได้สะดวกและมั่นใจ
4. ตรวจสอบและดูแลหลังการรักษา
- หลังจากติดตั้งครอบฟันแล้ว ทันตแพทย์จะตรวจสอบการสบฟัน ความกระชับของครอบฟัน พร้อมแนะนำวิธีดูแลช่องปากอย่างละเอียด
- การดูแลที่ดีจะช่วยให้การรักษารากฟันเทียมมีประสิทธิภาพ และยืดอายุการใช้งานของรากเทียมให้ได้นานที่สุด
แม้ว่ากระบวนการรักษาด้วยรากฟันเทียมจะใช้เวลาหลายเดือน แต่ทุกขั้นตอนล้วนออกแบบการรักษาอย่างพิถีพิถัน เพื่อความปลอดภัยและความสบายใจของคนไข้ และหากคุณยังสงสัยว่ารากฟันเทียมเจ็บไหม ขอตอบเลยว่า ด้วยเทคโนโลยีปัจจุบันและการดูแลโดยทีมทันตแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ อาการเจ็บนั้นอยู่ในระดับที่ควบคุมได้ และไม่ใช่เรื่องที่ต้องกังวลอีกต่อไป
หากคุณต้องการปรึกษาเรื่องการรักษารากฟันหรือวางแผนการฝังรากฟันเทียม คลินิก Anytooth ยินดีให้บริการด้วยความใส่ใจในทุกขั้นตอน

การดูแลหลังทำรากฟันเทียมช่วยลดอาการเจ็บได้อย่างไร?
หลายคนที่สงสัยว่าทำรากฟันเทียมเจ็บไหมอาจยังไม่ทราบว่า การดูแลตัวเองหลังผ่าตัดมีผลอย่างมากต่อระดับความเจ็บและโอกาสเกิดภาวะแทรกซ้อน การปฏิบัติตัวอย่างถูกต้องไม่เพียงช่วยลดอาการไม่สบาย แต่ยังทำให้การรักษารากฟันเทียมมีประสิทธิภาพและฟื้นตัวได้เร็วขึ้น
แนวทางดูแลแผลหลังการฝังรากฟันเทียม
1. กัดผ้าก๊อซให้เลือดหยุด
- หลังผ่าตัดควรกัดผ้าก๊อซนานประมาณ 30 นาทีโดยไม่ขยับแรง หากยังมีเลือดซึม ให้เปลี่ยนผ้าก๊อซและกัดซ้ำ
- หลีกเลี่ยงการบ้วนน้ำหรือถ่มน้ำลายแรง เพราะจะทำให้เลือดหยุดไหลช้าลง
2. ลดบวม ลดเจ็บ ด้วยการประคบน้ำแข็ง
- ใน 24 ชั่วโมงแรก ให้ประคบน้ำแข็งบริเวณแก้มด้านที่ผ่าตัด โดยใช้ผ้าห่อน้ำแข็งและประคบ 30 นาที สลับพัก 30 นาที
- นอนหนุนหมอนสูงในคืนแรก ช่วยลดบวมได้ดี
3. รับประทานยาให้ครบ
- รับประทานยาแก้ปวดและยาปฏิชีวนะตามแพทย์สั่งอย่างเคร่งครัด แม้ไม่รู้สึกเจ็บ ก็ไม่ควรหยุดยาเอง
- หากมีอาการบวมมาก เจ็บรุนแรง หรือมีไข้ ควรกลับมาพบทันตแพทย์ทันที
4. หลีกเลี่ยงของแข็ง ของเหนียว และของร้อน
- ภายใน 7 วันแรก งดเคี้ยวอาหารแข็งหรือเหนียว เช่น ถั่ว ลูกอม เนื้อย่าง หรือของเหนียวหนึบที่อาจกระทบแผล
- หลีกเลี่ยงของร้อนจัด เช่น น้ำซุปหรือกาแฟร้อน เพราะความร้อนกระตุ้นให้เลือดออกง่ายขึ้น
5. ดูแลความสะอาดช่องปากอย่างอ่อนโยน
- วันแรกให้งดแปรงฟันบริเวณที่ผ่าตัด หลังจากนั้นใช้แปรงขนอ่อนและแปรงเบา ๆ
- กลั้วคอด้วยน้ำเกลืออุ่นหรือน้ำยาบ้วนปากสูตรไม่มีแอลกอฮอล์ วันละ 2–3 ครั้ง ช่วยลดเชื้อและการอักเสบ
6. งดบุหรี่และแอลกอฮอล์เด็ดขาด
- บุหรี่และแอลกอฮอล์เป็นศัตรูตัวร้ายของแผลผ่าตัด เพราะรบกวนการหายของแผล และเพิ่มโอกาสติดเชื้อ
- การงดสารเหล่านี้ช่วยให้การรักษารากฟันเทียม เป็นไปอย่างราบรื่นและลดอาการแทรกซ้อนอื่น ๆ ที่จะตามมา
รู้ได้อย่างไรว่าต้องกลับมาพบทันตแพทย์?
แม้การฝังรากเทียมจะเป็นหัตถการที่ปลอดภัยและมีอัตราสำเร็จสูง แต่การสังเกตอาการหลังผ่าตัดก็สำคัญไม่แพ้กัน หากเกิดความผิดปกติแล้วไม่รีบเข้ารับการดูแล อาจกระทบต่อการรักษารากฟันเทียม และเสี่ยงต่อภาวะแทรกซ้อนได้
สัญญาณเตือนที่ไม่ควรมองข้าม
- ปวดบริเวณที่ฝังรากเทียมรุนแรงเกิน 3 วัน หรือยังปวดแม้รับประทานยาแล้ว
- มีหนองหรือกลิ่นปากผิดปกติ ซึ่งอาจบ่งชี้ถึงการติดเชื้อ
- เลือดออกต่อเนื่องหลายวัน ควรรีบมาพบทันตแพทย์เพื่อรักษาโดยด่วน
- รู้สึกว่ารากเทียมเคลื่อนหรือหลวม เหมือนฟันไม่แน่น ควรให้ทันตแพทย์ตรวจเช็กเพื่อรักษาทันที
หากคุณพบอาการเหล่านี้อย่ารอให้ลุกลาม รีบกลับมาพบทันตแพทย์เพื่อประเมินและแก้ไขอย่างทันท่วงที จะช่วยให้การรักษารากฟันเทียมดำเนินต่อได้อย่างราบรื่น และลดความเสี่ยงต่อการต้องถอดรากเทียมในอนาคต
สรุปแล้ว การทำรากฟันเทียมไม่เจ็บอย่างที่คิด ด้วยเทคโนโลยีทางการแพทย์ที่พัฒนามากกว่าเมื่อก่อน ทำให้มีตัวช่วยอำนวยความสะดวกระหว่างรักษา ที่สำคัญ หากคุณเข้าใจกระบวนการ และปฏิบัติตามคำแนะนำของทันตแพทย์อย่างเคร่งครัด อาการเจ็บจะลดลงอย่างเห็นได้ชัด ทั้งยังช่วยให้การรักษารากฟันเทียม มีโอกาสสำเร็จสูงขึ้นมาก
ปัจจุบันการรักษารากฟันและการฝังรากเทียม มีเทคโนโลยีช่วยให้เจ็บน้อย ใช้เวลาพักฟื้นไม่นาน และให้ผลลัพธ์ใกล้เคียงฟันธรรมชาติจนแทบแยกไม่ออก
หากคุณกำลังวางแผนจะฝังรากเทียม และมองหาผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทาง Anytooth คลินิกทันตกรรมสุขสวัสดิ์ ประชาอุทิศ พร้อมดูแลคุณอย่างใกล้ชิดตั้งแต่ขั้นตอนวางแผนจนถึงการติดตามผล ด้วยทีมทันตแพทย์ประสบการณ์สูง พร้อมอุปกรณ์ทันสมัย เพื่อให้คุณมั่นใจว่าเมื่อรักษารากฟันเทียมกับเรา จะปลอดภัย เจ็บน้อย และคุ้มค่ากับรอยยิ้มที่คุณจะได้รับกลับคืนมา
ช่องทางการติดต่อเพิ่มเติม
Tel. 087-112-8888
Line ID: @anytooth