การครอบฟัน คือ วิธีการทางทันตกรรมที่ช่วยฟื้นฟูฟันที่ผุ แตก หรือเสียหายจากการใช้งานให้กลับมาแข็งแรงและสวยงามอีกครั้ง โดยการทำปลอกฟันครอบทับบนฟันซี่เดิม ซึ่งช่วยเพิ่มความทนทานให้กับฟันที่ได้รับความเสียหายและเพิ่มความมั่นใจในการใช้งานฟันได้อย่างมีประสิทธิภาพ การครอบฟันมักจะถูกเลือกใช้ในกรณีที่การอุดฟันธรรมดาไม่สามารถทำได้ในฟันที่มีความเสียหายมาก เช่น ฟันที่ผุรุนแรง ฟันที่แตก หรือฟันที่รักษารากฟันแล้ว
ฟันครอบ หรือ Dental Crown นั้นสามารถทำได้จากวัสดุหลายประเภท เช่น โลหะ เซรามิก หรือวัสดุผสมที่มีคุณสมบัติแตกต่างกันไป ซึ่งแต่ละประเภทของวัสดุจะเหมาะกับฟันในแต่ละตำแหน่งแตกต่างกันไป เช่น ฟันกรามที่ต้องรับแรงบดเคี้ยวมากอาจเลือกวัสดุที่ทนทานเป็นพิเศษ ขณะที่ฟันหน้าที่ต้องการความสวยงามและความกลมกลืนกับฟันธรรมชาติอาจเลือกเซรามิกหรือวัสดุที่มีลักษณะคล้ายฟันจริงมากที่สุด บทความนี้ จะอธิบายให้เข้าใจง่าย ๆ พร้อมครอบคลุมทุกประเด็นสำคัญเกี่ยวกับการรักษาด้วยการ ครอบฟัน
การครอบฟัน คืออะไร?
การครอบฟัน เป็นกระบวนการทางทันตกรรมที่ใช้วัสดุพิเศษเพื่อเคลือบหรือ ครอบฟัน ที่เสียหาย โดยวัสดุที่ใช้มักจะเป็นเซรามิก โลหะ เรซิน หรือวัสดุผสมชนิดต่าง ๆ ซึ่งได้รับการออกแบบให้เหมาะสมกับฟันของแต่ละบุคคล เพื่อการรักษาฟันที่ได้รับความเสียหายจากการผุ ฟันที่สึกจากการใช้งาน หรือฟันที่ผ่านการรักษารากฟันและไม่สามารถอุดฟันได้ตามปกติ การครอบฟันจึงเป็นวิธีการที่มีประสิทธิภาพในการฟื้นฟูฟันที่เสียหายให้กลับมาใช้งานได้ตามปกติ
การครอบฟันไม่เพียงแต่ช่วยให้ฟันกลับมาแข็งแรงและสามารถใช้งานได้เหมือนเดิม แต่ยังช่วยให้ฟันดูมีรูปลักษณ์ที่สวยงามและใกล้เคียงฟันธรรมชาติที่สุด การครอบฟัน จึงเป็นวิธีที่ไม่เพียงแต่รักษาฟันให้แข็งแรง แต่ยังช่วยเสริมสร้างความมั่นใจในรอยยิ้มของคุณ ด้วยความที่วัสดุที่ใช้ในการครอบฟันมีความทนทานสูง การครอบฟันจึงเป็นการแก้ไขปัญหาฟันเสียที่ยาวนานและสามารถใช้งานได้ตลอดอายุการใช้งานของฟัน
ทั้งนี้ ฟันที่ได้รับ การครอบฟัน มักจะได้รับการเสริมความแข็งแรงจากการเคลือบวัสดุที่มีความทนทาน ทำให้ฟันไม่แตกหักหรือเกิดความเสียหายเพิ่มเติม ซึ่งช่วยให้การบดเคี้ยวอาหารทำได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยไม่ต้องกังวลเรื่องการเกิดปัญหาฟันเสียหายซ้ำอีกในอนาคต
ทันตกรรมครอบฟันมีกี่แบบ?
การครอบฟัน สามารถแบ่งออกเป็นหลายประเภทตามวัสดุที่ใช้ โดยหลักๆ จะมี 3 ประเภท ดังนี้
ครอบฟันเซรามิก (Porcelain Crown): เหมาะสำหรับฟันหน้า เพราะวัสดุเซรามิกมีลักษณะที่ใกล้เคียงกับฟันธรรมชาติที่สุด ทั้งในเรื่องสีและความสวยงาม
ครอบฟันโลหะผสม (Porcelain-Fused-to-Metal Crown): ผสมผสานความแข็งแรงของโลหะและความสวยงามของเซรามิก ใช้ได้ทั้งฟันหน้าและฟันกราม
ครอบฟันโลหะล้วน (Gold Crown): เหมาะสำหรับฟันกรามที่ต้องรับแรงบดเคี้ยวสูง เนื่องจากวัสดุโลหะมีความแข็งแรงมาก แต่ไม่สามารถกลมกลืนกับสีฟันได้
นอกจากนี้ยังมี ครอบฟันเรซิน (Composite Crown) และ ครอบฟันสแตนเลส (Stainless Steel Crown) เป็นอีกทางเลือกที่เหมาะสำหรับการใช้ในฟันน้ำนมของเด็กโดยเฉพาะ เนื่องจากมีอายุการใช้งานที่สั้นกว่าประเภทอื่น
ทำไมถึงต้องครอบฟัน?
การครอบฟันเป็นทางเลือกสำคัญในการฟื้นฟูฟันที่เสียหายให้กลับมาใช้งานได้ใกล้เคียงฟันธรรมชาติที่สุด โดยเฉพาะในกรณีที่ไม่สามารถรักษาด้วยวิธีอื่นได้ เช่น การอุดฟันทั่วไป การครอบฟันจะช่วยเสริมความแข็งแรงให้ฟัน ทนต่อแรงบดเคี้ยว และยืดอายุการใช้งานของฟันได้อีกหลายปี เหตุผลหลักที่พบบ่อยในการเลือก ครอบฟัน ได้แก่
- ฟันผุที่อุดไม่ได้
หากฟันผุมีขนาดใหญ่หรือกินเนื้อฟันไปมาก การอุดฟันอาจไม่สามารถยึดติดได้แน่นหนา หรือมีโอกาสหลุดซ้ำ การครอบฟันจะช่วยคลุมเนื้อฟันทั้งหมดและป้องกันการผุซ้ำในอนาคต
- ฟันที่แตกร้าวหรือแตกจากอุบัติเหตุ
ฟันที่ได้รับแรงกระแทกหรือแตกร้าวมีความเสี่ยงที่จะร้าวลึกขึ้นจนถึงโพรงประสาทฟัน การครอบฟันจะช่วยยึดชิ้นส่วนฟันเข้าด้วยกันและป้องกันไม่ให้เกิดการแตกร้าวเพิ่มเติม
- ฟันที่สึกกร่อนจากการกัดฟัน
คนที่มีพฤติกรรมกัดฟันตอนนอนหรือใช้ฟันบดเคี้ยวของแข็งบ่อย ๆ มักมีปัญหาฟันสึกอย่างรวดเร็ว ซึ่งอาจส่งผลต่อรูปร่างและการสบฟัน การครอบฟันช่วยคืนสภาพฟันให้กลับมาเหมือนเดิม และปกป้องไม่ให้ฟันสึกเพิ่ม
- ฟันที่รักษารากแล้วและต้องการป้องกันการแตกร้าว
ฟันที่ผ่านการรักษารากฟันจะมีโครงสร้างอ่อนแอลง เพราะไม่มีโพรงประสาทคอยหล่อเลี้ยง การครอบฟันจึงจำเป็นอย่างยิ่งเพื่อเสริมความแข็งแรงและป้องกันการแตกร้าวของฟันซี่นั้น
- เสริมความสวยงามให้ฟันที่ผิดรูปหรือมีสีผิดปกติ
บางกรณี ฟันอาจมีรูปร่างผิดปกติ เช่น ฟันเล็กเกินไป หรือมีสีคล้ำจากพันธุกรรมหรือผลข้างเคียงของยา การครอบฟันจะช่วยปรับรูปร่าง สี และแนวฟันให้ดูเป็นธรรมชาติ เพิ่มความมั่นใจในการยิ้ม
ครอบฟัน จึงไม่เพียงแต่ช่วยแก้ไขปัญหาทางกายภาพของฟัน แต่ยังตอบโจทย์ในด้านความงามและความมั่นใจได้อย่างครอบคลุม โดยทันตแพทย์จะเป็นผู้วินิจฉัยว่าแต่ละกรณีเหมาะสมกับการครอบฟันหรือไม่ และควรใช้วัสดุแบบใดให้เหมาะกับตำแหน่งฟันและพฤติกรรมการใช้งานของแต่ละบุคคล
ขั้นตอนการครอบฟัน อย่างละเอียดและครบถ้วนที่สุด
การครอบฟันเป็นวิธีบูรณะฟันที่เสียหายให้กลับมามีรูปร่าง การทำงาน และความสวยงามใกล้เคียงกับฟันธรรมชาติอีกครั้ง โดยมีขั้นตอนที่ต้องอาศัยความแม่นยำและความเชี่ยวชาญของทันตแพทย์ ดังนี้
ครั้งที่ 1: การตรวจวินิจฉัยและเตรียมฟัน
นี่คือขั้นตอนแรกและสำคัญที่สุด ซึ่งทันตแพทย์จะวางแผนการรักษาทั้งหมด
- การตรวจและปรึกษา:
- ทันตแพทย์จะตรวจสุขภาพในช่องปากอย่างละเอียด รวมถึงฟันซี่ที่จะทำการครอบและฟันข้างเคียง
- การเอกซเรย์ (X-ray): เพื่อประเมินสภาพของรากฟันและกระดูกรอบๆ ว่ามีความแข็งแรงพอหรือไม่ มีการติดเชื้อที่ปลายราก หรือปัญหาอื่นๆ ที่ต้องรักษาก่อนหรือไม่
- การวางแผนการรักษา: ทันตแพทย์จะอธิบายถึงความจำเป็นในการทำครอบฟัน ทางเลือกของวัสดุที่ใช้ทำครอบฟันแต่ละชนิด (เช่น เซรามิกล้วน, โลหะเคลือบเซรามิก หรือโลหะล้วน) ซึ่งมีข้อดี-ข้อเสียด้านความสวยงาม ความแข็งแรง และราคาแตกต่างกันไป พร้อมทั้งประเมินค่าใช้จ่ายทั้งหมด
- การเตรียมฟัน (กรอฟัน):
- การฉีดยาชา: ก่อนเริ่มกรอฟัน ทันตแพทย์จะฉีดยาชาบริเวณฟันซี่นั้นและเนื้อเยื่อรอบๆ เพื่อให้คุณไม่รู้สึกเจ็บปวดในระหว่างการรักษา
- การกรอแต่งฟัน: ทันตแพทย์จะใช้เครื่องมือกรอฟันเพื่อลดขนาดของฟันลงทุกด้าน เพื่อให้มีพื้นที่เพียงพอสำหรับสวมครอบฟันลงไปได้อย่างพอดี โดยปริมาณเนื้อฟันที่ถูกกรอออกจะขึ้นอยู่กับประเภทของครอบฟันที่เลือก
- การสร้างแกนฟัน (ถ้าจำเป็น): ในกรณีที่ฟันผุมากหรือมีการแตกหักใหญ่จนเหลือเนื้อฟันน้อยเกินไป ทันตแพทย์อาจต้องทำการบูรณะแกนฟันขึ้นมาใหม่โดยใช้วัสดุอุดฟันหรือการทำเดือยฟัน (ในฟันที่รักษารากแล้ว) เพื่อเป็นฐานที่แข็งแรงให้ครอบฟันยึดเกาะ
- การพิมพ์ปาก หรือ สแกนฟัน 3 มิติ:
- การพิมพ์ปากแบบดั้งเดิม: ทันตแพทย์จะใช้วัสดุพิมพ์ปากที่มีลักษณะคล้ายดินน้ำมัน กดลงบนฟันที่กรอแล้วและฟันคู่สบ เพื่อให้ได้แบบจำลองที่แม่นยำสำหรับส่งไปยังห้องปฏิบัติการทันตกรรม (แล็บ)
- การสแกนฟัน 3 มิติ (Digital Impression): เทคโนโลยีสมัยใหม่จะใช้เครื่องสแกนในช่องปาก (Intraoral Scanner) เพื่อเก็บภาพฟันเป็นข้อมูลดิจิทัล 3 มิติ ซึ่งมีความแม่นยำสูง รวดเร็ว และให้ความรู้สึกสบายกว่าการพิมพ์ปากแบบเดิม ไฟล์ที่ได้จะถูกส่งไปยังแล็บทางอินเทอร์เน็ตได้ทันที
- การเลือกสีฟัน: ทันตแพทย์จะใช้แผ่นเทียบสีฟัน (Shade Guide) มาเทียบกับสีฟันข้างเคียง เพื่อให้ช่างทันตกรรมสามารถทำสีของครอบฟันให้ออกมากลมกลืนและเป็นธรรมชาติมากที่สุด
- การใส่ครอบฟันชั่วคราว:
- ระหว่างที่รอครอบฟันถาวรจากแล็บ (ซึ่งอาจใช้เวลาประมาณ 1-2 สัปดาห์) ทันตแพทย์จะติดครอบฟันชั่วคราวที่ทำจากอะคริลิกหรือเรซินให้
- หน้าที่ของครอบฟันชั่วคราว: ช่วยป้องกันฟันที่กรอไว้ไม่ให้เกิดการเสียหายหรือเสียวฟัน, รักษาตำแหน่งของฟันไม่ให้ล้มหรือขยับ และช่วยให้สามารถเคี้ยวอาหารและยิ้มได้ตามปกติ
ระหว่างรอ: การผลิตครอบฟันในห้องปฏิบัติการ
แบบพิมพ์ปากหรือไฟล์สแกน 3 มิติจะถูกส่งไปยังแล็บทันตกรรม ที่ซึ่งช่างเทคนิคทันตกรรมผู้เชี่ยวชาญจะใช้ข้อมูลเหล่านี้สร้างครอบฟันถาวรขึ้นมาทีละชิ้นด้วยความประณีต โดยอาจใช้เทคโนโลยี CAD/CAM (Computer-Aided Design/Computer-Aided Manufacturing) ในการออกแบบและขึ้นรูปครอบฟันจากบล็อกของวัสดุเซรามิก เพื่อให้ได้ชิ้นงานที่มีความพอดีและสวยงามสูงสุด
ครั้งที่ 2: การใส่ครอบฟันถาวร
เมื่อครอบฟันถาวรเสร็จเรียบร้อย ทันตแพทย์จะนัดคุณมาเพื่อทำการติดตั้ง
- การรื้อครอบฟันชั่วคราวและทำความสะอาด: ทันตแพทย์จะถอดครอบฟันชั่วคราวออกและทำความสะอาดคราบซีเมนต์ชั่วคราวและสิ่งสกปรกออกจากฟันที่เตรียมไว้
- การลองและปรับแต่งครอบฟันถาวร:
- ทันตแพทย์จะนำครอบฟันถาวรมาลองสวมบนฟันของคุณเพื่อตรวจสอบความแนบสนิทของขอบ, สี, รูปร่าง และที่สำคัญคือ การสบฟัน
- หากการสบฟันสูงหรือต่ำเกินไป ทันตแพทย์จะทำการกรอปรับแต่งครอบฟันเล็กน้อยเพื่อให้เคี้ยวได้อย่างพอดีและไม่รู้สึกว่ามีอะไรมารบกวน
- การยึดครอบฟันอย่างถาวร:
- เมื่อทุกอย่างลงตัวและคุณพึงพอใจแล้ว ทันตแพทย์จะทำการฉีดยาชาอีกครั้ง (หากจำเป็น) และใช้ซีเมนต์หรือกาวทางทันตกรรมชนิดถาวรทาด้านในของครอบฟัน แล้วสวมลงบนฟันให้เข้าที่
- ซีเมนต์จะแข็งตัวอย่างรวดเร็ว (บางชนิดอาจใช้แสงพิเศษช่วยกระตุ้น) เพื่อยึดครอบฟันให้ติดแน่นกับเนื้อฟันอย่างถาวร
- หลังจากนั้น ทันตแพทย์จะกำจัดซีเมนต์ส่วนเกินออกและตรวจสอบการสบฟันเป็นครั้งสุดท้าย
การดูแลและการติดตามผล
- การดูแลหลังใส่ครอบฟัน: ทันตแพทย์จะให้คำแนะนำในการดูแลรักษา เช่น การแปรงฟันและใช้ไหมขัดฟันอย่างถูกวิธี โดยเน้นบริเวณรอยต่อระหว่างขอบครอบฟันและเหงือกเป็นพิเศษ
- อาการที่อาจเกิดขึ้น: ในช่วงแรกๆ อาจมีอาการเสียวฟันเมื่อดื่มของร้อนหรือเย็น ซึ่งเป็นเรื่องปกติและจะค่อยๆ ดีขึ้นเอง ควรหลีกเลี่ยงการเคี้ยวของแข็งมากๆ ในช่วงแรก
- การนัดติดตามผล: ทันตแพทย์อาจนัดกลับมาเพื่อตรวจเช็คอีกครั้งหลังใส่ไปแล้วประมาณ 1-2 สัปดาห์ และควรเข้ารับการตรวจสุขภาพฟันเป็นประจำทุก 6 เดือน เพื่อให้แน่ใจว่าครอบฟันและสุขภาพช่องปากโดยรวมยังอยู่ในสภาพดี
เทคโนโลยีสมัยใหม่: ในบางคลินิกที่มีเครื่อง CAD/CAM อาจสามารถทำ "ครอบฟันวันเดียวเสร็จ (One-Day Crown)" ได้ โดยทำการสแกนฟัน ออกแบบ และผลิตครอบฟันด้วยเครื่องกลึงในคลินิก ซึ่งช่วยลดขั้นตอนและจำนวนครั้งที่ต้องมาพบทันตแพทย์ลงได้
ขั้นตอนทั้งหมดนี้ถูกออกแบบมาเพื่อให้การรักษาเป็นไปอย่างราบรื่นและได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุด หากคุณมีความกังวลหรือคำถามใดๆ ควรปรึกษาทันตแพทย์ของคุณโดยตรง
หากต้องการทราบรายละเอียดของแต่ละขั้นตอนอย่างละเอียด สามารถอ่านต่อได้ในบทความ [ขั้นตอนการครอบฟันและการเตรียมตัวก่อนรักษา] ซึ่งเราได้อธิบายทุกกระบวนการทำครอบฟันให้เข้าใจง่ายยิ่งขึ้น
เปรียบเทียบประเภท ครอบฟัน แต่ละแบบ
ข้อดีและข้อควรระวังของการครอบฟัน
การครอบฟันเป็นหนึ่งในวิธีการฟื้นฟูฟันที่ได้รับความนิยมมาก เพราะนอกจากจะช่วยรักษาฟันที่เสียหายให้กลับมาใช้งานได้อย่างมั่นใจแล้ว ยังช่วยเสริมความสวยงามให้กับรอยยิ้มอีกด้วย อย่างไรก็ตาม การครอบฟันก็มีข้อควรระวังที่ควรรู้ก่อนตัดสินใจ เพื่อให้การรักษาได้ผลดีและลดปัญหาที่อาจเกิดขึ้นในภายหลัง
ข้อดีของการครอบฟัน
- ป้องกันฟันผุเพิ่มเติม: ครอบฟันช่วยห่อหุ้มฟันที่เสียหายหรือผุไว้ทั้งหมด จึงลดโอกาสการเกิดฟันผุซ้ำบริเวณเดิม
- เพิ่มความแข็งแรงในการเคี้ยว: วัสดุครอบฟันมีความแข็งแรง ช่วยให้สามารถบดเคี้ยวอาหารได้เต็มที่ โดยเฉพาะฟันกราม
- ฟันดูสวยงามขึ้น: ครอบฟันช่วยปรับรูปร่าง สี และความเรียงตัวของฟัน ให้ดูเป็นธรรมชาติและยิ้มมั่นใจมากขึ้น
ข้อควรระวังของการครอบฟัน
- อาจรู้สึกเสียวฟันชั่วคราว: หลังติดตั้งครอบฟันในช่วง 1–2 วันแรก อาจมีอาการเสียวฟันเมื่อทานของร้อนหรือเย็น ซึ่งมักหายไปเองภายในไม่กี่วัน
- หากติดไม่แน่น อาจหลุดหรือมีเศษอาหารเข้าไปได้: การติดครอบฟันที่ไม่แน่นหรือขอบไม่พอดี อาจทำให้ครอบฟันหลวม และเปิดช่องให้เศษอาหารเข้าไปติดสะสม จนนำไปสู่ฟันผุซ้ำหรือกลิ่นปากได้ ดังนั้นจึงควรเลือกทำกับทันตแพทย์ที่มีความเชี่ยวชาญ และตรวจสอบความพอดีก่อนใช้งานจริง
- ครอบฟันที่ไม่ได้คุณภาพอาจทำให้เหงือกอักเสบ: หากขอบของครอบฟันไม่แนบสนิทกับฟัน หรือวัสดุมีความคม อาจระคายเหงือกจนเกิดการอักเสบหรือร่นได้
อายุการใช้งานของฟันครอบ
ฟันครอบโดยทั่วไปสามารถใช้งานได้ตั้งแต่ 5–15 ปี หรือแม้แต่นานกว่านั้น ขึ้นอยู่กับวัสดุที่ใช้ พฤติกรรมการใช้งาน และการดูแลสุขภาพช่องปากของแต่ละคน หากได้รับการดูแลอย่างเหมาะสม ฟันครอบสามารถอยู่ในสภาพดีได้นานหลายปีโดยไม่ต้องเปลี่ยนใหม่
การดูแลฟันครอบให้ใช้งานได้นานควรเริ่มจากการแปรงฟันอย่างถูกวิธีวันละ 2 ครั้ง ใช้ไหมขัดฟันเป็นประจำ หลีกเลี่ยงการกัดหรือเคี้ยวของแข็ง เช่น น้ำแข็ง กระดูก หรือเมล็ดแข็ง ๆ และเข้ารับการตรวจสุขภาพช่องปากกับทันตแพทย์ปีละ 1–2 ครั้ง เพื่อให้ทันตแพทย์ตรวจสอบความแน่นของฟันครอบและสุขภาพเหงือกอย่างต่อเนื่อง
วิธีดูแลหลังการครอบฟัน
หลังจากติดตั้ง ครอบฟัน เรียบร้อยแล้ว การดูแลรักษาอย่างถูกวิธีจะช่วยให้ฟันครอบอยู่ได้นานและลดโอกาสเกิดปัญหาตามมา
- หลีกเลี่ยงของแข็งในช่วงแรก: ควรงดเคี้ยวอาหารแข็ง เช่น น้ำแข็ง กระดูก หรือของกรอบจัด เพื่อป้องกันการหลุดหรือแตกร้าวของครอบฟัน
- ระวังการกัดของเหนียวหรือเหนียวหนึบ: เช่น คาราเมล หรือหมากฝรั่ง ซึ่งอาจทำให้ครอบฟันหลุดหรือเคลื่อนตำแหน่ง
- ใช้น้ำยาบ้วนปากและไหมขัดฟันทุกวัน: เพื่อรักษาความสะอาดบริเวณขอบครอบฟัน ป้องกันฟันผุหรือเหงือกอักเสบ
- หากมีอาการเสียวฟันนานกว่าปกติ: เช่น เสียวเมื่อทานของร้อนหรือเย็นต่อเนื่องหลายวัน ควรรีบปรึกษาทันตแพทย์เพื่อเช็กว่าครอบฟันแน่นดีหรือไม่
ใครบ้างที่เหมาะกับการครอบฟัน?
การครอบฟันไม่ได้จำกัดแค่ในกรณีฟันผุเท่านั้น แต่ยังเหมาะกับผู้ที่มีปัญหาหลายลักษณะ ดังนี้:
- ผู้ที่มีฟันผุลึกหรือเสียหายมาก: โดยเฉพาะในกรณีที่เนื้อฟันเหลือน้อย การอุดฟันอาจไม่เพียงพอต่อการรักษา
- ผู้ที่ผ่านการรักษารากฟัน: ฟันที่รักษารากมักเปราะกว่าปกติ การครอบฟันจะช่วยป้องกันการแตกร้าวในอนาคตได้
- ผู้ที่ต้องการปรับรูปลักษณ์ของฟัน: สามารถใช้การครอบฟันช่วยปรับให้ฟันดูสวยงามขึ้น เช่น ฟันเรียงไม่สวย สีคล้ำ หรือมีรูปร่างผิดปกติ
- ผู้ที่มีปัญหาฟันสึกจากการนอนกัดฟัน: การครอบฟันสามารถช่วยเสริมความแข็งแรง และลดการสึกกร่อนของฟันได้
ครอบฟันราคาเท่าไหร่?
ราคาการครอบฟันจะแตกต่างกันไปตามวัสดุที่เลือกใช้และตำแหน่งของฟันที่ทำการรักษา โดยที่ คลินิก Anytooth ราคาเริ่มต้นที่ประมาณ 15,000 บาท ทั้งนี้ปัจจัยที่มีผลต่อราคา มีดังนี้
- วัสดุที่เลือกใช้: วัสดุแต่ละประเภทมีต้นทุนและคุณสมบัติต่างกัน เช่น ครอบฟันเรซินมีราคาที่เข้าถึงได้ง่ายกว่า แต่มีอายุการใช้งานสั้นกว่าประเภทอื่น
- ตำแหน่งของฟัน: ฟันหน้าอาจต้องการความสวยงามมากกว่าฟันกราม จึงอาจมีการเลือกใช้วัสดุเฉพาะ ทำให้ราคาสูงขึ้น
- การรักษาร่วมอื่น ๆ: เช่น การรักษารากฟัน การถ่ายภาพเอกซเรย์ หรือการพิมพ์ฟัน 3 มิติ อาจมีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม
หากคุณกำลังตัดสินใจทำครอบฟัน แนะนำให้เข้าปรึกษาทันตแพทย์ของเราก่อนเพื่อประเมินอาการและเลือกรูปแบบการรักษาที่เหมาะสม พร้อมทราบราคาที่แน่ชัดก่อนตัดสินใจ
การครอบฟัน คือหนึ่งในวิธีการฟื้นฟูฟันที่ได้รับความนิยมมากที่สุด เพราะสามารถช่วยเสริมความแข็งแรงให้กับฟันที่เสียหาย พร้อมคืนรูปลักษณ์ที่สวยงามใกล้เคียงฟันธรรมชาติ ไม่ว่าจะเป็นกรณีฟันผุลึก ฟันแตก ฟันสึก หรือฟันที่ผ่านการรักษารากมาแล้ว การครอบฟันสามารถช่วยให้คุณกลับมาใช้งานฟันได้อย่างมั่นใจอีกครั้ง
หากคุณกำลังพบกับปัญหาเหล่านี้ Anytooth พร้อมให้บริการทันตกรรมครบวงจร เพื่อเข้าพบทันตแพทย์ประเมินอาการ และวางแผนการรักษาอย่างเหมาะสม ช่วยให้คุณได้รับทางเลือกที่ดีที่สุด ทั้งในแง่ของผลลัพธ์และงบประมาณที่ใช้ตลอดการรักษา
นัดหมายทันตแพทย์ Anytooth ปรึกษาฟรี
ช่องทางการติดต่อเพิ่มเติม
Tel. 087-112-8888
Line ID: @anytoot